หมู่บ้านในนิวซีแลนด์ประกาศสั่งห้ามเลี้ยงแมว
หมู่บ้านเล็กๆในนิวซีแลนด์กลายเป็นประเด็นถกระดับชาติระหว่างนักอนุรักษ์กับคนรักแมว หลังสภาเมืองประกาศห้ามเลี้ยง
การห้ามเลี้ยงแมวทุกชนิดในหมู่บ้านโอมาวี ภูมิภาคเซาท์แลนด์ ทางใต้ของนิวซีแลนด์ เป็นส่วนหนึ่งของแผนความมั่นคงทางชีวภาพของเซาท์แลนด์ เนื่องจากมีความวิตกว่าแมวเลี้ยงอาจผสมพันธุ์กับแมวป่า กลายเป็นแมวพันธุ์นักล่าที่แกร่งกว่าเดิม ยิ่งจะเป็นเป็นอันตรายต่อสัตว์พื้นถิ่น
ตามแผนของสภาเซาท์แลนด์ กำหนดให้ทำหมัน ฝังไมโครชิฟและขึ้นทะเบียนแมวเลี้ยงทุกตัวในหมู่บ้านโอมาวี และเมื่อแมวตาย จะไม่อนุญาตให้เลี้ยงใหม่
หนังสือพิมพ์ โอทังโก เดลีย์ อ้างจอห์น คอลลินส์ ประธานองค์กรโอมาวี แลนด์แคร์ ที่ผลักดันมาตรการนี้ ว่า เราไม่ใช่พวกรังเกียจแมว แต่ต้องการรักษาความสมบูรณ์สภาพแวดล้อมและสัตว์นานาชนิด
เจ้าหน้าที่กล่าวว่า มาตรการนี้สมเหตุสมผล เพราะกล้องวงจรปิดในโอมาวีแสดงให้เห็นหลายครั้งว่าแมวที่ออกมาเพ่นพ่านมักล่านก แมลงและสัตว์เลื้อยคลาน
แต่เจ้าของแมวในท้องถิ่น กล่าวว่า พวกเขาจะไม่ปฏิบัติตาม ชาวบ้านคนหนึ่งอ้างว่าที่บ้านมีปัญหาหนูรบกวนมาก หากไม่เลี้ยงแมว การใช้ชีวิตในบ้านจะลำบาก
ตามแผนการนี้ ผู้ใดฝ่าฝืนจะได้รับจดหมายเตือน และเจ้าหน้าที่จะเข้ายึดแมว แต่จะทำเป็นทางเลือกสุดท้าย
แมวเลี้ยงถูกผู้อพยพยุโรปนำเข้าไปในนิวซีแลนด์ครั้งแรก ในคริสต์ทศวรรษ 1800 ปัจจุบัน ประชากรเพิ่มเป็น 1.4 ล้านตัว ในประเทศที่มีประชากร 4.96 ล้าน
สำหรับเจ้าของ แมวเป็นสัตว์เลี้ยงแสนรัก แต่อีกด้าน มักทำร้ายสัตว์เลื้อยคลานพวกจิ้กจก-กิ้งก่าพื้นถิ่นและนกไร้ทางสู้ รวมถึงนกกีวี สัตว์มาสคอตของนิวซีแลนด์ ผลศึกษาพบมีนก 6 ชนิดที่เสี่ยงสูญพันธุ์เพราะนักล่าอย่างแมว
ย้อนกลับไปในคริสต์ทศวรรษที่ 1920 เกาะรอบนอกของนิวซีแลนด์หลายแห่งเคยมีการห้ามเลี้ยงและจำกัดแมวเลี้ยงเช่นกัน
ก่อนหน้านี้ในเดือนเดียวกัน ยูจีน ซาจ รัฐมนตรีอนุรักษ์นิวซีแลนด์ ก็เคยเสนอให้กรุงเวลลิงตัน ออกมาตรการห้ามเลี้ยงแมวเพื่อเพิ่มประชากรนกกีวีในเขตเมือง
บีบีซี รายงานว่าการถกเถียงเรื่องประชากรแมวกับระบบนิเวศท้องถิ่นไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับหมู่บ้านนี้ นักวิทยาศาสตร์เตือนมานาน ถึงผลกระทบจากแมวป่าและแมวเลี้ยงที่ออกมาข้างนอก และแมวติดอันดับเป็นหนึ่งในสัตว์ต่างถิ่นรุกราน 100 ชนิดพันธุ์ที่ก่อผลกระทบต่อสัตว์พื้นถิ่นเลวร้ายที่สุดในโลก