อย่าเชื่อ!…น้ำลายเจ้าเหมียว “รักษาสิว” ไม่ได้นะ
สถาบันโรคผิวหนัง เตือนอันตรายจากการให้แมวเลียหน้า เพราะแบคทีเรียในน้ำลายแมวจะเข้าสู่บาดแผล ทำให้เกิดโรคติดเชื้อทางผิวหนัง และอาจมีอันตรายถึงขั้นทำให้เสียชีวิตได้
นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า จากกรณีการเสนอข่าวว่ามีการรักษาสิวบนใบหน้าที่น่าตะลึงของหญิงชาวอินโดนีเซีย โดยมีการให้แมวแท็บบี้นั่งบนหนังสือเรียน และคอยเลียใบหน้าขณะเรียนหนังสืออยู่ที่บ้าน เป็นเวลา 3 เดือน ปรากฏว่าสิวบนใบหน้าลดลง ใบหน้าดีขึ้นหลังจากให้แมวที่เลี้ยงเลียใบหน้าทุกวัน จากข้อมูลดังกล่าวพบว่าในช่องปากของแมว และในน้ำลายแมว จะมีแบคทีเรียประจำถิ่นเป็นจำนวนมาก ซึ่งแบคทีเรียนี้ไม่ก่อโรคในแมว แต่ถ้าแมวกัดคนเป็นแผลรอยเขี้ยว แบคทีเรียในน้ำลายจะเข้าสู่บาดแผล ทำให้ติดเชื้อเป็นโรคไฟลามทุ่ง (Cellulitis) ถ้ารักษาไม่ทัน แบคทีเรียอาจลามเข้ากระแสเลือด ทำให้เสียชีวิตได้
พญ.มิ่งขวัญ วิชัยดิษฐ ผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์ กล่าวว่า ผู้ที่ชอบให้แมวเลียสิวบนใบหน้า แบคทีเรียในน้ำลายแมวอาจผ่านสะเก็ดแผลเล็กๆ บนตุ่มสิวทำให้ติดเชื้อเป็นโรคไฟลามทุ่งได้ จึงไม่ควรให้แมวเลียที่ใบหน้า แม้ไม่เป็นสิว แบคทีเรียอาจผ่านแผลเล็กๆ หรือเยื่อบุปาก เยื่อบุจมูกได้ ซึ่งผู้ที่เป็นสิวเล็กน้อย สามารถดูแลรักษาเองด้วยวิธีการล้างทำความสะอาด ด้วยผลิตภัณฑ์ล้างหน้าวันละ 2 ครั้ง ห้ามบีบแกะสิว ถ้าเป็นสิวมาก มีตุ่มแดง ตุ่มหนอง ควรไปพบแพทย์ ห้ามซื้อยาปฏิชีวนะกินเอง เพราะอาจแพ้ยา เกิดเชื้อดื้อยาได้