คนที่อยู่กับแมวสุขภาพดี อาจได้ของแถมเป็นสุดยอดแบคทีเรีย ช่วยต้านเชื้อดื้อยาปฏิชีวนะ
เรื่อง : BBC เผยแพร่ 5 พฤศจิกายน 2021
ภาพปก : GETTY IMAGES
เมื่อพูดถึงการเลี้ยงแมวกับสุขภาพของมนุษย์ หลายคนอาจคิดถึงอาการคัน ระคายเคือง หรือหายใจลำบากเพราะแพ้สารบางอย่างในน้ำลายแมว บางคนอาจคิดถึงเชื้อปรสิตที่ทำให้หนูและคนเปลี่ยนพฤติกรรม แต่จะมีใครคาดคิดว่า การคลุกคลีใกล้ชิดกับแมวก็มีประโยชน์ใหญ่หลวงต่อสุขภาพได้เช่นกัน
ผลการศึกษาล่าสุดที่ตีพิมพ์ในวารสาร eLife ระบุว่า การที่ทาสแมวเลี้ยงน้องเหมียวสุขภาพแข็งแรงไว้ข้างกาย อาจช่วยให้ได้รับแบคทีเรียชนิดมีประโยชน์ที่อาศัยอยู่บนผิวหนังของแมวได้ โดยแบคทีเรียซึ่งมีชื่อว่า Staphylococcus felis ชนิดนี้ มีคุณสมบัติต้านทานแบคทีเรียก่อโรค โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเชื้อที่ดื้อยาปฏิชีวนะเมทิซิลลิน หรือที่เรียกกันว่าเชื้อ MRSP ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคผิวหนังอักเสบรุนแรงและเรื้อรัง
ดร. ริชาร์ด กัลโล นักวิทยาศาสตร์การแพทย์ผู้นำทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียวิทยาเขตซานดิเอโก (UCSD) กล่าวว่า แม้เชื้อแบคทีเรีย Staphylococcus felis จะพบได้ในสัตว์เลี้ยงหลายชนิดของมนุษย์ และอาจแบ่งตัวเพิ่มจำนวนจนทำให้เกิดปัญหาสุขภาพได้ในบางครั้ง หากสัตว์เลี้ยงได้รับบาดเจ็บหรือล้มป่วยจนภูมิคุ้มกันลดต่ำลง แต่โดยทั่วไปแล้วจัดว่ามีคุณประโยชน์มากกว่าจะเป็นโทษ
จากการทดลองเพาะเชื้อดังกล่าวไว้ใกล้กับเชื้อดื้อยา MRSP ผลปรากฏว่ามีการผลิตสารปฏิชีวนะตามธรรมชาติออกมาหลายชนิด รวมทั้งเปปไทด์ (Peptide) หรือสายของกรดอะมิโนที่มีคุณสมบัติต่อต้านจุลินทรีย์ถึง 4 ชนิด ซึ่งทำให้ฆ่าเชื้อดื้อยาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
“สารปฏิชีวนะเหล่านี้เข้าโจมตีโครงสร้างเซลล์ของเชื้อดื้อยาจากหลายด้าน เปรียบเสมือนการใช้ยาร่วมกันหลายขนาน (polypharmacy)” ดร. กัลโล กล่าวอธิบาย
เมื่อทดสอบใช้แบคทีเรียจากแมว รักษาหนูทดลองที่เป็นโรคผิวหนังอักเสบจากเชื้อดื้อยา MRSP พบว่าผื่นแดงลดลงและผิวหนังบริเวณที่มีอาการอักเสบหดแคบลง ทั้งยังพบปริมาณเชื้อที่ก่อโรคหลงเหลืออยู่บนผิวหนังน้อยลงมากอีกด้วย
ทีมผู้วิจัยหวังว่าจะสามารถพัฒนาเชื้อ Staphylococcus felis ให้อยู่ในรูปของสเปรย์ฉีดพ่น ครีม หรือเจล เพื่อใช้เป็นยารักษาอาการอักเสบติดเชื้อในมนุษย์ ซึ่งยานี้จะติดทนอยู่บนผิวหนังของผู้ป่วยโดยไม่ถูกล้างออกไปง่าย ๆ เนื่องจากผิวหนังของคนเรามีวิวัฒนาการมาเพื่อปกป้องรักษาจุลินทรีย์ชนิดที่ดีเอาไว้กับตัวอยู่แล้ว
